วันพฤหัสบดีที่ 23 ตุลาคม พ.ศ. 2557
เห็ดโคลน
เห็ด เป็นพืชที่คนไทยคุ้นเคยมาเป็นเวลานาน และเห็ดนั้นก็จัดได้ว่ามีมากมายหลายประเภท ซึ่งเห็ดแต่ละประเภทนั้นก็ให้ประโยชน์และให้โทษต่างกันไป สำหรับการเลือกกินเห็ดนั้นควรศึกษาชนิด หรือประเภทให้ดีก่อน เพราะเห็ดบางประเภทนั้นให้โทษถึงแก่ชีวิต
วันพุธที่ 22 ตุลาคม พ.ศ. 2557
หญ้าหวาน
'ต้นหญ้าหวาน' เทรนด์ใหม่ของคนรักสุขภาพ ให้ความหวานจากธรรมชาติ แต่ปราศจากแคลอรี่
การมีสุขภาพ
พร้อมรูปร่างที่ดีเป็นสิ่งที่สาวๆ หลายคนปรารถนา
ซึ่งคุณผู้หญิงทั้งหลายมักมีการดูแลรูปร่าง
และควบคุมน้ำหนักที่แตกต่างกันออกไป ทั้งการออกกำลังกาย
การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการกิน รวมทั้งการอดอาหาร แต่หารู้ไม่ว่าการ
“อดอาหาร” ที่เหล่าคุณผู้หญิงส่วนมากกำลังเผชิญอยู่นั้น
นำมาซึ่งผลเสียต่างๆ อาทิ โรคกระเพาะอาหาร ร่างกายอ่อนเพลีย
และอารมณ์แปรปรวน เป็นต้น นอกจากนี้ยังเป็นการทรมานร่างกาย
แถมบางรายอาจเกิดโยโย่เอฟเฟคตามมาภายหลังอีกด้วย
เพราะฉะนั้นการควบคุมน้ำหนักด้วยวิธีอดอาหารจึงไม่ควรปฏิบัติเป็นอย่าง
ยิ่ง หากแต่เราควรลองเปลี่ยนพฤติกรรมการรับประทาน
รู้จักควบคุมอาหารให้ถูกต้อง เลือกรับประทานอาหารที่มีประโยชน์
ลดการกินอาหารจำพวกแป้ง และน้ำตาลให้น้อยลง โดยเมื่อเร็วๆ นี้
ได้มีการทำการวิจัยและค้นพบ สารให้ความหวานที่สกัดจากธรรมชาติอย่าง “ต้นหญ้าหวาน” ซึ่งกำลังเป็นที่นิยมของผู้ที่รักสุขภาพ และผู้ที่ควบคุมน้ำหนักเป็นอย่างมาก
คุณสมบัติ วิจันทมุข ผู้จัดการฝ่ายพัฒนาผลิตภัณฑ์ บริษัท มาลีสามพราน
จำกัด (มหาชน) ได้กล่าวถึงสารให้ความหวานที่สกัดจากธรรมชาติอย่าง “ต้นหญ้าหวาน” ว่า จริงๆ แล้วต้นหญ้าหวานเป็นที่นิยมในประเทศทางฝั่งซีกโลกตะวันตกมานานหลายปี และนิยมบริโภคกันมากในกลุ่มคนรักสุขภาพ
แต่ต้นหญ้าหวานเริ่มเข้าสู่ประเทศไทยตั้งแต่ปี พ.ศ. 2550 จัดเป็นพืชสมุนไพรชนิดหนึ่ง โดยเมื่อนำต้นหญ้าหวานมาส
กัด จะได้สารสกัดจากธรรมชาติที่สำคัญ ที่เรียกว่า สตีวิออลไกลโคไซด์
(Steviol glycosides) หรือ สตีเวีย (Stevia)
มีคุณสมบัติสามารถให้ความหวานมากกว่าน้ำตาลทรายถึง 200-300 เท่า
แต่ไม่ให้พลังงาน เพราะไม่มีส่วนประกอบของคาร์โบไฮเดรต
ที่ร่างกายสามารถใช้เป็นพลังงานได้ จึงปราศจากแคลอรี่
ไม่ทำให้น้ำตาลในเลือดสูง แต่กลับช่วยลดน้ำตาลในเลือด
เหมาะสำหรับผู้ที่เป็นโรคเบาหวาน โรคความดันโลหิต โรคอ้วน และโรคหัวใจ
รวมถึงผู้ที่ต้องการควบคุมน้ำหนัก เพราะช่วยลดไขมันในร่างกายและในเส้นเลือด
ด้านผลงานวิจัยของทีมวิจัยจากมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ยังกล่าวเสริมว่า สารสกัดจากต้นหญ้าหวานมี
ความปลอดภัยในทุกๆ กรณี โดยค่าสูงสุดที่กินได้อย่างปลอดภัยคือ 7,938
มิลลิกรัม/กิโลกรัม ซึ่งสูงมาก เทียบเท่ากับการผสมในเครื่องดื่มหรือกาแฟถึง
73 ถ้วยต่อวัน โดยปรกติคนส่วนใหญ่ดื่มกาแฟกันประมาณ 2-3 ถ้วยเท่านั้น
ซึ่งการใช้ต้นหญ้าหวานอย่างปลอดภัย คือ ประมาณ 1-2 ใบต่อเครื่องดื่ม 1 ถ้วย ถือเป็นปริมาณที่เหมาะสม และไม่หวานมากจนเกินไป สารสกัดจากต้นหญ้าหวานนี้ สามารถใช้บริโภคแทนน้ำตาลได้ และสามารถทานได้ทุกเพศทุกวัย
ทั้งนี้ ปัจจุบันสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ได้ขึ้นทะเบียนให้สารสกัดธรรมชาติจากต้นหญ้าหวาน
อย่างสารสตีวิออลไกลโคไซด์ (Steviol glycosides) หรือ สตีเวีย (Stevia)
สามารถบริโภคแทนน้ำตาลได้ เพราะมีความปลอดภัยสูง ไม่เป็นอันตราย
หรือมีผลข้างเคียงใดๆ โดยได้มีการนำไปใช้ในด้านอุตสาหกรรมต่างๆ
อย่างเครื่องดื่ม ซึ่งช่วยสร้างความแตกต่างจากเครื่องดื่มแคลอรี่ต่ำทั่วไป
ดังนั้นคุณผู้หญิงรักสุขภาพทั้งหลายที่กำลังมองหาตัวช่วยในการควบคุม
น้ำหนัก หรือคุณผู้ชายที่ต้องการตัวช่วยในการควบคุมน้ำตาลในเลือด
ลองเลือกผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนประกอบของสารสกัดจากธรรมชาติอย่างสตีเวีย
(Stevia) เป็นทางเลือกใหม่ เพราะนอกจากจะให้ความหวานจากธรรมชาติแล้ว
ยังปราศจากแคลอรี่อีกด้วย
วันอังคารที่ 21 ตุลาคม พ.ศ. 2557
เกษตรกรเปลี่ยนโลก
เกษตรกรเปลี่ยนโลก
ศิวพร เอี่ยมจิตกุศล บทพิสูจน์ 7 ปีของการเป็นเกษตรกรด้วยใจรักอย่างแท้จริง ผ่านโครงการปลูกเปลี่ยนโลก (โรค)
บทพิสูจน์ 7 ปีของการเป็นเกษตรกรด้วยใจรักอย่างแท้จริง ผ่านโครงการปลูกเปลี่ยนโลก (โรค) ซึ่งเป็นโครงการอาหารปลอดภัยที่ทำร่วมกับโรงพยาบาลพระปกเกล้า จันทบุรี เกิดเป็นตลาดนัดสุขภาพจนถึงทุกวันนี้
บนเนื้อที่ 30 ไร่ใน ต.คลองพลู อ.เขาคิชฌกูฏ จ.จันทบุรี เป็นทั้งสวนทุเรียน เงาะ มังคุด ลองกอง แปลงผักสวนครัว นาข้าวและที่อยู่ของเป็ด ห่าน เปรียบเสมือนแปลงทดลองขนาดใหญ่สำหรับเกษตรกรมือใหม่ในชื่อ "ศิวพร เอี่ยมจิตกุศล" หรือป้าเบสท์ เจ้าของรางวัลเกษตรอินทรีย์ดีเด่น จ.จันทบุรี
พื้นเพเป็นคนกรุงเทพฯ โดยกำเนิด เกิดและเติบโตในเมืองหลวงย่านตลาดพลู เรียนชั้นมัธยมศึกษาที่โรงเรียนราชินี จากนั้นสอบติดสถาปัตย์จุฬาฯ แต่เรียนมาถึงปี 3 รู้ตัวว่า สถาปนิก “ไม่ใช่” อาชีพที่อยากเป็น เพราะถ้าสร้างตึกไม่ดีจะเป็นการประจานตนเองไปตลอดชีวิต จึงเบนเข็มมาเรียนการออกแบบผลิตภัณฑ์ จากนั้นไปฝึกงานที่กรมวิทยาศาสตร์บริการ พบรักกับสามีที่เป็นข้าราชการ อายุมากว่า 15 ปี ถือเป็นเรื่องฮือฮามาก เพราะเธอแต่งงานเป็นคนแรกในรุ่น
หลังจากแต่งงานมาระยะหนึ่ง เริ่มมีปัญหาสุขภาพจาก แรงกดดันหลายเรื่อง เพราะอยากทำทุกอย่างให้ประสบความสำเร็จในช่วงที่ทำธุรกิจวัสดุก่อสร้าง ปัญหาโรคภัยไข้เจ็บรุมเร้าทั้งโรคภูมิแพ้ ไมเกรนและตรวจพบก้อนเนื้อบริเวณหน้าอก เธอ หยุดทำงานและเริ่มออกท่องเที่ยวอย่างเดียวเพื่อหาคำตอบให้ชีวิต
เงิน "ไม่ใช่"คำตอบของชีวิต สุดท้ายเธอตัดสินใจย้ายออกจากกรุงเทพฯ และกลายมาเป็น "ชาวสวน" เต็มตัว
เรียนรู้จากธรรมชาติ
ศิวพรเป็นชาวสวนที่ไม่มีพื้นฐานความรู้เรื่องการเกษตร แต่เธอเริ่มศึกษาและเลือกเกษตรอินทรีย์อย่าง จริงจัง ผลผลิตจากพื้นที่ 30 ไร่ออกมาอย่างสม่ำเสมอ นอกจากจะมีอาหารปลอดภัยไว้รับประทานเองแล้ว ยังเหลือส่งขายให้โรงพยาบาล โรงเรียนทางเลือกในกรุงเทพฯ รวมถึงร้านค้าเพื่อสุขภาพอย่างเลม่อนฟาร์มอีกด้วย
แต่กว่าจะถึงวันนี้เธอลองผิดลองถูกมามากมาย
จากประสบการณ์ เธอพบว่า ทฤษฎีการทำเกษตรอินทรีย์คือ ต้องทำดินให้มีคุณภาพดีที่สุดเหมือนกับดินในป่า ด้วยการใส่ปุ๋ยที่เป็นปุ๋ยอินทรีย์หมัก ใส่ไปจนกระทั่งต้นไม้ที่อยู่ตรงนี้แข็งแรงด้วยตัวเอง ถึงจะมีพลังต่อสู้และต้านทานต่อโรคได้ เธอจึงหมักปุ๋ยอินทรีย์ปีละ 90 ตัน
ด้วยความเป็นคนที่คิดนอกกรอบ เธอมองว่า การเลี้ยงเป็ดห่านจะช่วยกำจัดหญ้าและเพิ่มปุ๋ยให้กับดิน สวนทางกับแนวคิดของเกษตรกรอื่นๆ ซึ่งคิดว่าไม่ควรนำเป็ดห่านเข้ามาในแปลงผลไม้ เพราะจะทำให้ต้นไม้เสียหาย แต่เธอไม่ได้เชื่อตามนั้น จึงทดลองปล่อยเป็ดห่านในแปลงผลไม้ ปรากฏว่าหญ้าที่เคยรกมากกลับเตียนหายไป ต้นไม้ดูดีขึ้นอย่างมหัศจรรย์ ทำให้เธอทำงานน้อยลงแล้วก็ได้ผลดีต่อระบบนิเวศในภาพรวม
ที่มา กรุงเทพธุรกิจ
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)