วันอังคารที่ 21 ตุลาคม พ.ศ. 2557

เกษตรกรเปลี่ยนโลก

เกษตรกรเปลี่ยนโลก

ศิวพร เอี่ยมจิตกุศล บทพิสูจน์ 7 ปีของการเป็นเกษตรกรด้วยใจรักอย่างแท้จริง ผ่านโครงการปลูกเปลี่ยนโลก (โรค)

บทพิสูจน์ 7 ปีของการเป็นเกษตรกรด้วยใจรักอย่างแท้จริง ผ่านโครงการปลูกเปลี่ยนโลก (โรค) ซึ่งเป็นโครงการอาหารปลอดภัยที่ทำร่วมกับโรงพยาบาลพระปกเกล้า จันทบุรี เกิดเป็นตลาดนัดสุขภาพจนถึงทุกวันนี้

บนเนื้อที่ 30 ไร่ใน ต.คลองพลู อ.เขาคิชฌกูฏ จ.จันทบุรี เป็นทั้งสวนทุเรียน เงาะ มังคุด ลองกอง แปลงผักสวนครัว นาข้าวและที่อยู่ของเป็ด ห่าน เปรียบเสมือนแปลงทดลองขนาดใหญ่สำหรับเกษตรกรมือใหม่ในชื่อ "ศิวพร เอี่ยมจิตกุศล" หรือป้าเบสท์ เจ้าของรางวัลเกษตรอินทรีย์ดีเด่น จ.จันทบุรี

พื้นเพเป็นคนกรุงเทพฯ โดยกำเนิด เกิดและเติบโตในเมืองหลวงย่านตลาดพลู เรียนชั้นมัธยมศึกษาที่โรงเรียนราชินี จากนั้นสอบติดสถาปัตย์จุฬาฯ แต่เรียนมาถึงปี 3 รู้ตัวว่า สถาปนิก ไม่ใช่อาชีพที่อยากเป็น เพราะถ้าสร้างตึกไม่ดีจะเป็นการประจานตนเองไปตลอดชีวิต จึงเบนเข็มมาเรียนการออกแบบผลิตภัณฑ์ จากนั้นไปฝึกงานที่กรมวิทยาศาสตร์บริการ พบรักกับสามีที่เป็นข้าราชการ อายุมากว่า 15 ปี ถือเป็นเรื่องฮือฮามาก เพราะเธอแต่งงานเป็นคนแรกในรุ่น

หลังจากแต่งงานมาระยะหนึ่ง เริ่มมีปัญหาสุขภาพจาก แรงกดดันหลายเรื่อง เพราะอยากทำทุกอย่างให้ประสบความสำเร็จในช่วงที่ทำธุรกิจวัสดุก่อสร้าง ปัญหาโรคภัยไข้เจ็บรุมเร้าทั้งโรคภูมิแพ้ ไมเกรนและตรวจพบก้อนเนื้อบริเวณหน้าอก เธอ หยุดทำงานและเริ่มออกท่องเที่ยวอย่างเดียวเพื่อหาคำตอบให้ชีวิต

เงิน "ไม่ใช่"คำตอบของชีวิต สุดท้ายเธอตัดสินใจย้ายออกจากกรุงเทพฯ และกลายมาเป็น "ชาวสวน" เต็มตัว

เรียนรู้จากธรรมชาติ

ศิวพรเป็นชาวสวนที่ไม่มีพื้นฐานความรู้เรื่องการเกษตร แต่เธอเริ่มศึกษาและเลือกเกษตรอินทรีย์อย่าง จริงจัง ผลผลิตจากพื้นที่ 30 ไร่ออกมาอย่างสม่ำเสมอ นอกจากจะมีอาหารปลอดภัยไว้รับประทานเองแล้ว ยังเหลือส่งขายให้โรงพยาบาล โรงเรียนทางเลือกในกรุงเทพฯ รวมถึงร้านค้าเพื่อสุขภาพอย่างเลม่อนฟาร์มอีกด้วย

แต่กว่าจะถึงวันนี้เธอลองผิดลองถูกมามากมาย

จากประสบการณ์ เธอพบว่า ทฤษฎีการทำเกษตรอินทรีย์คือ ต้องทำดินให้มีคุณภาพดีที่สุดเหมือนกับดินในป่า ด้วยการใส่ปุ๋ยที่เป็นปุ๋ยอินทรีย์หมัก ใส่ไปจนกระทั่งต้นไม้ที่อยู่ตรงนี้แข็งแรงด้วยตัวเอง ถึงจะมีพลังต่อสู้และต้านทานต่อโรคได้ เธอจึงหมักปุ๋ยอินทรีย์ปีละ 90 ตัน

ด้วยความเป็นคนที่คิดนอกกรอบ เธอมองว่า การเลี้ยงเป็ดห่านจะช่วยกำจัดหญ้าและเพิ่มปุ๋ยให้กับดิน สวนทางกับแนวคิดของเกษตรกรอื่นๆ ซึ่งคิดว่าไม่ควรนำเป็ดห่านเข้ามาในแปลงผลไม้ เพราะจะทำให้ต้นไม้เสียหาย แต่เธอไม่ได้เชื่อตามนั้น จึงทดลองปล่อยเป็ดห่านในแปลงผลไม้ ปรากฏว่าหญ้าที่เคยรกมากกลับเตียนหายไป ต้นไม้ดูดีขึ้นอย่างมหัศจรรย์ ทำให้เธอทำงานน้อยลงแล้วก็ได้ผลดีต่อระบบนิเวศในภาพรวม

 

ที่มา กรุงเทพธุรกิจ


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น