เกษตรกรเปลี่ยนโลก
เกษตรกรเปลี่ยนโลก
ศิวพร
เอี่ยมจิตกุศล บทพิสูจน์ 7
ปีของการเป็นเกษตรกรด้วยใจรักอย่างแท้จริง
ผ่านโครงการปลูกเปลี่ยนโลก (โรค)
บทพิสูจน์ 7 ปีของการเป็นเกษตรกรด้วยใจรักอย่างแท้จริง
ผ่านโครงการปลูกเปลี่ยนโลก (โรค)
ซึ่งเป็นโครงการอาหารปลอดภัยที่ทำร่วมกับโรงพยาบาลพระปกเกล้า จันทบุรี เกิดเป็นตลาดนัดสุขภาพจนถึงทุกวันนี้
บนเนื้อที่ 30 ไร่ใน ต.คลองพลู
อ.เขาคิชฌกูฏ จ.จันทบุรี เป็นทั้งสวนทุเรียน
เงาะ มังคุด ลองกอง แปลงผักสวนครัว นาข้าวและที่อยู่ของเป็ด ห่าน
เปรียบเสมือนแปลงทดลองขนาดใหญ่สำหรับเกษตรกรมือใหม่ในชื่อ
"ศิวพร เอี่ยมจิตกุศล" หรือป้าเบสท์ เจ้าของรางวัลเกษตรอินทรีย์ดีเด่น จ.จันทบุรี
พื้นเพเป็นคนกรุงเทพฯ โดยกำเนิด เกิดและเติบโตในเมืองหลวงย่านตลาดพลู
เรียนชั้นมัธยมศึกษาที่โรงเรียนราชินี จากนั้นสอบติดสถาปัตย์จุฬาฯ แต่เรียนมาถึงปี
3 รู้ตัวว่า สถาปนิก “ไม่ใช่” อาชีพที่อยากเป็น เพราะถ้าสร้างตึกไม่ดีจะเป็นการประจานตนเองไปตลอดชีวิต จึงเบนเข็มมาเรียนการออกแบบผลิตภัณฑ์
จากนั้นไปฝึกงานที่กรมวิทยาศาสตร์บริการ พบรักกับสามีที่เป็นข้าราชการ อายุมากว่า 15
ปี ถือเป็นเรื่องฮือฮามาก เพราะเธอแต่งงานเป็นคนแรกในรุ่น
หลังจากแต่งงานมาระยะหนึ่ง เริ่มมีปัญหาสุขภาพจาก แรงกดดันหลายเรื่อง
เพราะอยากทำทุกอย่างให้ประสบความสำเร็จในช่วงที่ทำธุรกิจวัสดุก่อสร้าง ปัญหาโรคภัยไข้เจ็บรุมเร้าทั้งโรคภูมิแพ้
ไมเกรนและตรวจพบก้อนเนื้อบริเวณหน้าอก เธอ หยุดทำงานและเริ่มออกท่องเที่ยวอย่างเดียวเพื่อหาคำตอบให้ชีวิต
เงิน "ไม่ใช่"คำตอบของชีวิต
สุดท้ายเธอตัดสินใจย้ายออกจากกรุงเทพฯ และกลายมาเป็น "ชาวสวน" เต็มตัว
เรียนรู้จากธรรมชาติ
ศิวพรเป็นชาวสวนที่ไม่มีพื้นฐานความรู้เรื่องการเกษตร
แต่เธอเริ่มศึกษาและเลือกเกษตรอินทรีย์อย่าง จริงจัง
ผลผลิตจากพื้นที่ 30 ไร่ออกมาอย่างสม่ำเสมอ นอกจากจะมีอาหารปลอดภัยไว้รับประทานเองแล้ว
ยังเหลือส่งขายให้โรงพยาบาล โรงเรียนทางเลือกในกรุงเทพฯ รวมถึงร้านค้าเพื่อสุขภาพอย่างเลม่อนฟาร์มอีกด้วย
แต่กว่าจะถึงวันนี้เธอลองผิดลองถูกมามากมาย
จากประสบการณ์ เธอพบว่า ทฤษฎีการทำเกษตรอินทรีย์คือ ต้องทำดินให้มีคุณภาพดีที่สุดเหมือนกับดินในป่า
ด้วยการใส่ปุ๋ยที่เป็นปุ๋ยอินทรีย์หมัก ใส่ไปจนกระทั่งต้นไม้ที่อยู่ตรงนี้แข็งแรงด้วยตัวเอง
ถึงจะมีพลังต่อสู้และต้านทานต่อโรคได้ เธอจึงหมักปุ๋ยอินทรีย์ปีละ 90 ตัน
ด้วยความเป็นคนที่คิดนอกกรอบ เธอมองว่า การเลี้ยงเป็ดห่านจะช่วยกำจัดหญ้าและเพิ่มปุ๋ยให้กับดิน
สวนทางกับแนวคิดของเกษตรกรอื่นๆ ซึ่งคิดว่าไม่ควรนำเป็ดห่านเข้ามาในแปลงผลไม้
เพราะจะทำให้ต้นไม้เสียหาย แต่เธอไม่ได้เชื่อตามนั้น
จึงทดลองปล่อยเป็ดห่านในแปลงผลไม้ ปรากฏว่าหญ้าที่เคยรกมากกลับเตียนหายไป
ต้นไม้ดูดีขึ้นอย่างมหัศจรรย์ ทำให้เธอทำงานน้อยลงแล้วก็ได้ผลดีต่อระบบนิเวศในภาพรวม
ที่มา กรุงเทพธุรกิจ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น